28 de fev. de 2021
สวัสดีทองคำสัปดาห์แรกของเดือนมีนาคม 64 ระหว่างวันที่ 1-5 มีนาคม 2564 ภาวะตลาดทองคำเมื่อวันศุกร์ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมาปรับตัวร่วงแรง 46.6 ดอลลาร์ เป็นเหตุมาจากดอลลาร์-บอนด์ยีนด์พุ่งทะยานฉุดราคาทองคำร่วงหนักบ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange)ส่งมอบเดือนเมษายน 2564 ร่วงลง 46.6 ดอลลาร์หรือ 2.62% ปิดตลาดที่ระดับราคา 1,728.8 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งเป็นการปิดต่ำสุดนับแต่เดือนมิถุนายน 2563 โดยรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาทองคำปรับร่วงลงราว 2.7% และในเดือนกุมภาพันธ์สัญญาทองคำร่วงลงกว่า 6.6% ซึ่งเป็นการร่วงในรายเดือนที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 มากสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากการพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี(Bond Yield 10 year) ได้ลดทอนความต้องการซื้อทองคำของนักลงทุน เป็นการถ่วงราคาปิดที่ระดับต่ำสุด อัตราผลตอบแทนรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี (Bond Yield 10 Year) ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 1.451% ในวันศุกร์ หลังพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 1.614% ในวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ในส่วนของดัชนีดอลลาร์ (Dollar Index) ก็ได้แข็งค่าขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา มีผลถ่วงราคาทองคำให้ร่วงเช่นกัน เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักในตลาดปริวัตรเงินตรา ดอลลาร์ปรับขึ้น 0.82% สู่ระดับ 90.869 ในคืนวันศุกร์ สองกรณีดังกล่าวนั้นหากสัปดาห์นี้ยังทิศทางเป็นบวก ก็จะยังคงกดดันถ่วงราคาทองคำให้ร่วงต่อได้อีก แต่ส่วนตัวแล้วผมมองว่าจะเป็นกดดันทางคำแค่ในระยะสั้นเท่านั้น เพราะเมื่อเรามองภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ในขณะนี้จะเห็นว่าตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ที่รายงานก่อนหน้าก็ออกมาดีเกินคาด ทั้งหากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากวงเงิน 1.9 ล้านล้านเหรียญที่จะได้รับอนุมัติเพื่ออัดฉีดเข้าสู่ระบบนั้น เราก็พอมองว่าเศรษฐกิจของสหรัฐฯจะฟื้นได้จากการที่ประชาชนร่วมจับจ่ายใช้สอยเพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดการว่าผลกระทบเงินเฟ้อในอนาคตนี้ต้องเกิดขึ้นแน่นอน จะเร็วสุดกลางปีนี้หรือช้าหน่อยต้นปีหน้าก็ตามเหตุผลเหล่านี้จะยังไม่เป็นปัจจัยเข้าหนุนทองคำได้เลยเวลานี้ เพราะเป็นเพียงสิ่งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในภายหน้า แต่ยังไม่ได้เกิดในเหตุการณ์ปัจจุบัน มาอีกกรณีที่จะไม่พูดเลยก็จะหาว่าตกเทรนด์อีก ก็คือการปรับตัวขึ้นพุ่งแรงของสกุลเงินดิจิตอลอย่าง Bitcoin (BTCUSD) ที่พุ่งทะยานถึง 58,354.14 ดอลลาร์ แม้ตอนนี้จะปรับตัวลงต่ำแล้วก็ตาม แต่ก็ยังมองเป็นเพียงแค่การย่อเพื่อปรับฐาน ตราบที่ Bitcoin ยังไม่หลุด 42,000 ดอลลาร์ลงไป เรายังมองโอกาสว่าเป็นขาขึ้นต่อเนื่องได้อีก ในส่วนของ Ethereum (ETHUSD) ก็ไม่ได้ต่างโดยราคาได้ปรับย่อลงจากระดับสูงสุดที่ 2,040.62 ดอลลาร์ แต่หากไม่หลุด 1,382.63 ดอลลาร์ ก็ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นได้อีก ประเด็นนี้ทำให้นักลงทุนหันไปให้ความสนใจในสินทรัพย์สกุลเงินดิจิตอลมากขึ้น ทำให้ลดทอนความสนใจทองคำลงไปด้วยประเมินทางเทคนิค หากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,760-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจเห็นการอ่อนตัวของราคาทองคำจากการทำกำไรระยะสั้นได้อีกครั้ง โดยประเมินแนวรับที่ระดับ 1,730 และ 1,706 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เป็นจุดรองรับราคาหากปรับตัวลดลงมา แต่หากราคาสามารถผ่านแนวต้าน 1,760-1,777 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นไปได้ เราประเมินแนวต้านก่อนจะขยับเหนือ 1,800 ได้อีกครั้งที่ระดับราคา 1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนวรับแนวต้าน กรอบรายวัน Resistance : 1,760 / 1,777 / 1,806 ---------------------------------- Support : 1,730 / 1,706 / 1,683 ----------------------------------